Header ADS

ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ "แฉ" บ.โฆษณายักษ์ใหญ่ร่วม "ทุจริต" กับองค์กรภาครัฐ ...

ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลกเจ้าของผู้ก่อตั้ง ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานโฆษณา ขสมก. ออกมา"แฉ" บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ร่วม"ทุจริต" กับองค์กรภาครัฐ

วันนี้ ( 8 ธ.ค.67 ) ที่ สวนหลวง ร.9 มูลนิธิต่อต้านการทุจริตจัดกิจกรรม INTERNATION ANTI - CORUPTION DAY RUN 2024 โดยมี พล อ.ธีระเดช ฉัตรเสถียรพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริตให้เกียรติเป็นประธานเปิดการแข่งขัน และให้ร่วมเดินในระยะทาง 3 ก.ม.ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักวิ่งและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมรวม 1,700 คน

     หลังจบการแข่งขันในพิธีมอบถ้วยรางวัลต่างๆเสร็จสิ้นลง นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ โปรโมเตอร์มวยโลก และผู้ก่อตั้งบริษัทก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ธีระเดช ฉัตรเสถียรพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ในฐานะผู้ได้รับสัมปทานโฆษณา ขสมก. พบการกระทำเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฏหมายก่อให้เกิดความเสียหายตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 มีการทุจริตภายในร่วมกับภาคเอกชนร่วมการปลอมแปลงและเปลี่ยนแปลงเอกสารจำนวนมาก ความเสียหายมากกว่า 5,000 ล้านบาท โดยเอกสารที่ยื่นต่อมูลนิธิต่อต้านการทุจริตในครั้งนี้ใจความสำคัญได้ระบุว่า "ความยินยอมดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้ผู้เช่าหลุดพ้นจากความรับผิดชอบหรือพันธะหน้าที่ตามสัญญานี้แต่อย่างใด" ซึ่งหมายความว่า บริษัทก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ต้องรับผิดชอบการขาดทุน ถ้าหากมีการขาดทุนในปัจจุบันถึงภายหน้าต่อไป จึงขอร้องเรียนความเป็นธรรมในการทุจริตของอดีตผู้บริหาร ขสมก.ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ กับพวกซึ่งบริษัทดังกล่าวเชื่อมโยงกับสื่อสาธารณะ สื่อสังคม วงการกีฬา วงการบันเทิงและอื่นๆ จึงร้องเรียนมาเพื่อให้ทางมูลนิธิต่อต้านการทุจริตเป็นสื่อกลางในการตรวจสอบการร่วมทุจริตคอร์รัปชั่นตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตต่อไป

 นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลก และผู้บริหารก่อเกียรติ กรุ๊ป คาดหวังว่าการยื่นหนังสือเพื่อตรวจสอบการร่วมทุจริตคอร์รัปชั่รในภาครัฐหน่วยงาน ขสมก. และพวก (บริษัทยักษ์ใหญ่โฆษณาในมหาชน) ต่อมูลนิธิต่อต้านการทุจริตในวันนี้ จะเป็นการจุดประกายการทำงานด้านการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปตามนโยบายของมูลนิธิต่อต้านการทุจริต