โครงการ “ธงฟ้าราคาประหยัด จ.พัทลุง” ระหว่างวันที่ 22 – 24 ธันวาคม 2566 ณ ลานเอนกประสงค์โรงเรียนตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง
พาณิชย์จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด จังหวัดพัทลุง นำสินค้าจากผู้ประกอบการ เกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน รวม 10 หมวดสินค้า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงและใกล้เคียงเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ เผยยังมีสินค้าไฮไลท์ทั้งไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาล ข้าวหอมมะลิ หมูเนื้อแดง ไก่ หอมแดงและส้มจำหน่ายทุกวันด้วย
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ธงฟ้าราคาประหยัดจังหวัดพัทลุง” ระหว่างวันที่ 22 – 24 ธันวาคม 2566 ณ ลานเอนกประสงค์โรงเรียนตะโหมด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง
เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) วิสาหกิจชุมชน รวมทั้ง ผู้ประกอบการจังหวัดพัทลุงและใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายรวม 10 หมวดสินค้า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลต์ และสินค้าผลไม้ที่เชื่อมโยงจากเกษตรกรในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์M แผงละ 95 บาท , น้ำมันพืชขวดละ 40 บาท , น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 22 บาท , ข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัม ถุงละ 150 บาท หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 100 บาท , ไก่น่องสะโพกกิโลกรัมละ 60 บาท ส้มกิโลกรัมละ 35 บาท
“ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุง และใกล้เคียงมา เลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด และมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพครบถ้วน ทั้งของกินของใช้ และผักผลไม้ตามฤดูกาล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนตามเป้าหมาย” นายนภินทร กล่าว
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้แก่ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) วิสาหกิจชุมชน ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย