ประธาน ค.ร.อ.ท.ลุยอีสานเหนือ ปลุกพลังผู้บริหารอาชีวะออกมาสู้ พรบ.การศึกษา...ให้อาชีวะมีที่ยืน"
19 ม.ค.2566 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย(ค.ร.อ.ท.)ได้กล่าวถึงการออกไปชี้แจงถึงแนวทางการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในรัฐสภาที่ว่าด้วยขอให้รัฐสภาโดย สส.และ สว. พิจารณาร่วมกันว่าขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นให้มีแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 71 ที่ระบุถึงการจัดการอาชีวศึกษา
จึงเข้าร่วมประชุมผู้บริหารอาชีวศึกษาเพื่อเชิญชวนและชึ้แจงที่มาที่ไปของร่างพรบ.การศึกษาแห่งชาติ....ดังกล่าว ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นำโดยเลขาอาชีวศึกษา ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ณ วิทยาลัยเทคนิคหนองคายแห่งที่ 2 ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญคือการขับเคลื่อนนโยบาย 9 Quick Win สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ประธาน ค.ร.อ.ท. ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการสร้างความเข้าใจในที่ประชุมผู้บริหารเพื่อให้ได้รู้ว่าทำไม ค.ร.อ.ท.จึงออกมาต่อสู้เพื่อให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติฉบับที่กำลังพิจารณาอยู่ในรัฐสภา ซึ่งค.ร.อ.ท. เสนอให้มีการแก้ไขในมาตรา 71 ว่าด้วยสถานศึกษาที่จัดการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาที่จัดการศึกษาตามมาตรา 8(6)(ก)(7)ให้มีความเป็นอิสระและให้การบริหารเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับการจัดการอาชีวศึกษาสำหรับคนระดับกลางของประเทศให้มีความรู้มีทักษะด้านวิชาชีพซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศ โดยอาชีวศึกษาเป็นผู้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ และการจัดการศึกษาของอาชีวศึกษาที่เป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ร่างพรบ.ดังกล่าวไม่มีมาตราไหนที่ระบุให้มีการจัดการศึกษาโดยอาชีวศึกษา โดยต้องการให้การจัดระดับ ปวช. ปวส.และปริญญา ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาที่ไม่ต่างจากอุดมศึกษาซึ่งในส่วนของอุดมศึกษาก็มีระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 31 ประเด็นคือการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นการจัดการศึกษาของ สพฐ. การศึกษาด้านอาชีวะเป็นการจัดการศึกษาโดยอาชีวศึกษา และการจัดการศึกษาระดับปริญญาซึ่งจัดโดยกระทรวง อว.
ประธาน ค.ร.อ.ท. แจ้งให้ผู้บริหารอาชีวศึกษาที่อยู่ในที่ประชุมและรับชมการถ่ายทอดสด ว่าถ้าร่างพรบ...ไม่ผ่านรัฐสภาก็เป็นการดีที่อาชีวะ จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขร่างพรบ.ฉบับต่อไปในรัฐบาลหน้า แต่ถ้าผ่านในรัฐบาลชุดนี้พวกเราชาวอาชีวศึกษาทั้งประเทศขอเพียงให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 71 จึงขอทำความเข้าใจกับ สส. และ สว. เพื่อให้มีการพิจารณาให้การสนับสนุนในประเด็นดังกล่าว ตามที่มีกรรมาธิการ
วิสามัญฯเสียงข้างน้อยขอสงวนคำแปรญัตติไว้แล้ว
