ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงสมุทรสาคร

พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงสมุทรสาคร

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. 2565 เวลา 15.20 น. ที่ องค์การสะพานปลาสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวพรรคเสรีรวมไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

โดยมี นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายชินชัย สถิรยากร เลขาฯประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายมงคล มงคลตรีลักษ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร และ นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย (อดีต สว.) รอให้การต้อนรับ

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทางคณะได้ลงเรือตำรวจน้ำ ที่ท่าเรือองค์การสะพานปลาสมุทรสาคร เพื่อลงไปดูสภาพกองเรือประมงพาณิชย์ และเรือประมงนอกน่านน้ำที่จอดชำรุดและเสียหาย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทางหน่วยงานภาครัฐได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สืบเนื่องจากการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม IUU ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ซึ่งชาวประมงมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุดกับการทำประมงของไทย หลังจากที่มีการลงเรือเพื่อดูกองเรือประมงแล้วเสร็จ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวพรรคเสรีรวมไทย ได้รับฟังปัญหาของชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย IUU ด้วย

โดยทางนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้มีการกล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่มาที่ไปของการที่ภาครัฐเข้ามาควบคุมเรือประมง บังคับใช้กฎหมาย และมีอัตราโทษปรับที่มีราคา

สูงมาก ซึ่งชาวประมงบางรายกระทำผิดโดยไม่เจตนา ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากชาวประมงบางรายมีความรู้ไม่น้อย ไม่รู้และไม่เข้าใจกฎหมายอย่างัดเจน จึงได้เสนอปัญหาผ่านมายัง พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวพรรคเสรีรวมไทย ว่าหากพรรคใดได้เป็นรัฐบาลก็อยากให้ฝากแก้กฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ชชาวประมงได้มีอาชีพต่อไปด้วย

ทางด้านนายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร ได้นำเสนอปัญหาให้ช่วยแก้ไข เรื่องการจับอวนก้นถุงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดเฉพาะกิจของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมงโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทางกรมประมงได้มีหนังสือยืนยันแล้วว่าชาวประมงไม่มีความผิด แต่ชาวประมงยังถูกกล่าวหาและยังถูกสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าของเรือต้องจอดเรือไม่สามารถออกทำการประมงได้เป็นเวลาสองเดือนทั้งๆที่กรมประมงเจ้าของกฎหมายยืนยันว่าถูกต้องแล้ว